เมื่อเวลา 11.10น.วันที่ 30 พ.ค.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ถ.พหลโยธิน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความในคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม นิดา พัชระวีรพงษ์ แจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ให้ดำเนินคดี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ หลังถูกโทรศัพท์มาข่มขู่คุกคามอ้างว่าจะส่งคนมาทำร้ายร่างกายหากไม่หยุดวิจารณ์คดีแตงโม
ทนายเดชา กล่าวว่า เมื่อคืนเวลา 20.00 น.นายมงคลกิตติ์ โทรศัพท์มาข่มขู่ทำนองว่าจะส่งคนมากระทืบ จะใช้วิธีนอกระบบ ส่งไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่ให้กลับมาอีก กรณีออกความเห็นในคดีแตงโม ซึ่งนอกจากข่มขู่ตน ยังมีนักข่าวและทนายความอื่นๆ ที่ถูกโทรไปคุกคามอีกด้วย วันนี้จึงถอดคำพูดใส่แผ่นซีดีมาแจ้งความดำเนินคดีฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และความผิดตามกฎหมายอาญา ม.309 เรื่องความผิดต่อเสรีภาพ ซึ่งคนแบบนี้ไม่สมควรเป็น ส.ส.เพราะเป็นมาเฟียมาข่มขู่ประชาชน
“ก่อนเขาจะมาเป็นที่ปรึกษาคดี ก็เห็นวิจารณ์ตนเองมาตั้งนาน ยอมรับว่าตอนแรกตนก็กลัว ครอบครัวก็กลัว สุนัขตนยังตกใจ แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว หากนายมงคลกิตติ์ จะร้องเรียนเรื่องตนกระทำผิดมารยาททนายความก็ขอให้ทำจริง ไม่รู้ว่าตั้งแต่รับคดีมีผีอะไรเข้าสิงหรือไม่ ขนาดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมก็ป่วยกระทันหัน”
ล่าสุดอีกฝ่ายอ้างว่าล้อเล่น และสนิทสนมกัน ตนยืนยันว่าเป็นการพูดจริงจัง โดยนายมงคลกิตติ์ ได้ไลฟ์สดหน้าตาขึงขัง และไม่ได้สนิทกันจริงตามที่กล่าวอ้าง แสดงให้เห็นว่านักการเมืองในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นมาเฟีย ยืนยันตนจะเอาผิดถึงที่สุด ไม่รับคำขอโทษ โดยจะยื่น ป.ป.ช.และประธานรัฐสภาตรวจสอบกรณีผิดวินัยร้ายแรง ฝากว่าหากผู้ใดถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน ก็ให้มาหาตน ส่วนวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อเรื่องการแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีแตงโมอีกครั้ง เชื่อว่าหลังดำเนินการทางกฎหมายต่อจากนี้ นายมงคลกิตติ์ จะไม่ได้เป็น ส.ส.อีกต่อไป มองว่าหากเขาไม่พอใจที่ตนกล่าวหาว่าพวกเขาเป็นคณะตลกก็ให้ฟ้องร้องกับศาล ไม่ใช่ส่งคนมากระทืบ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำพร้อมพิจารณาหลักฐาน ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาสั่งการอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน เมื่อคืนที่ผ่านมา ส.ส.เต้ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ฝากไปยังทนายความ 3-4 คน ได้แก่ นายเดชา นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และนายรัชพล ศิริสาคร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีแตงโมว่า ถ้าให้ความรู้ด้านกฎหมายสามารถทำได้ แต่หากใครออกความเห็นในทางที่มีผลกระทบต่อคดี โจยก็มีความหวาดกลัว ก็ขอให้เลิกการกระทำดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และร้องเรียนมารยาททนายความ หรือใช้วิธีทางการเมืองกับผู้เกี่ยวข้อง โดยไม่ขอบอกว่าเป็นวิธีใด ทั้งนี้ก็ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายและจะไม่พูดอีก ตนแค่ต้องการให้คดีเป็นไปตามระบบ หากใครข่มขู่ กดขี่ข่มเหงทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ตนจำเป็นต้องใช้วิธีหลายรูปแบบในการปกป้องแม่แตงโม ทีมงานและคนของตนเองทุกคน