รู้ตัวแล้ว…ทนายเดชา บอก แม่แตงโม นิดา เป็นคนส่งโทรศัพท์มือถือลูกสาวให้ บังแจ็ค ที่ต่างประเทศ!

จากกรณีมีเพจปล่อยภาพและคลิปต่างๆ ที่อยู่ในโทรศัพท์ของนักแสดงสาว แตงโม นิดา บนสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งที่โทรศัพท์อยู่กับ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ผู้เป็นแม่ งานนี้ทำเอาชาวเน็ตสงสัยกันหนักมากว่าใครกันเป็นคนทำ ซึ่งตอนแรกเหมือนจะเข้ามาช่วยคลี่คลายคดี แต่ตอนหลังเริ่มมีการปล่อยภาพลับ และทักไลน์ไปหาเพื่อนๆ ของสาวแตงโม รวมถึง กระติก อดีตผู้จัดการส่วนตัวและหนึ่งในห้าคนที่อยู่บนเรือในวันที่นักแสดงสาวเสียชีวิต

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 25 พ.ค. ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความประจำคดีการเสียชีวิตของสาวแตงโม ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ตนได้พูดคุยกับคุณแม่ ก็ได้รับการยืนยันว่า คุณแม่เป็นผู้ส่งโทรศัพท์ของแตงโมไปให้บังแจ็ค โดยแม่เป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง จากการที่พูดคุยทราบว่าที่ตัดสินใจส่งโทรศัพท์ไป เนื่องจากต้องการหาความจริงเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของแตงโม ภายหลังจึงนำโทรศัพท์ที่ได้รับคืนจากตำรวจ ไปยังแอปเปิ้ลประเทศไทย เพื่อกู้ภาพต่างๆ แต่กลับไม่สามารถดำเนินการได้เพราะกลัวข้อมูลรั่วไหล ประกอบกับบังแจ็คได้ติดต่อมาพูดคุยกันจนมีความสนิทสนม และอ้างว่าสามารถค้นหาภาพที่บ่งบอกว่าแตงโมถูกฆาตกรรมซึ่งอยู่ในโทรศัพท์ได้ ซึ่งมีอยู่ 2 ภาพที่ถูกลบไป เป็นภาพที่แตงโมใส่ชุดนอนอยู่ในโรงแรม ซึ่งไม่ใช่ภาพที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่จากรายงานการสืบสวนในทางลับของเจ้าหน้าที่ คาดว่าบังแจ็คนำภาพดังกล่าวไปให้กับยูทูบเบอร์คนหนึ่ง และอาจนำไปใช้เชื่อมโยงกับการฆาตกรรม ซึ่งยูทูบเบอร์คนดังกล่าวอาจถูกบังแจ็คหลอกก็เป็นได้

นายเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่โพสต์ภาพต่างๆ นั้น อีก 2 วัน คุณแม่จะขอเป็นผู้พูดเอง รวมถึงเรื่องการแจ้งความบังแจ็คเช่นกัน ว่าจะมีการดำเนินคดีหรือไม่ คุณแม่ยืนยันว่าโทรศัพท์อยู่ที่บังแจ็ค จึงเชื่อได้ว่าบังแจ็คเป็นผู้โพสต์ โดยวันที่มีกระแสข่าวเรื่องภาพของแตงโมบนสื่อสังคมออนไลน์ ตนก็ได้สอบถามไปยังคุณแม่แล้ว จนตนขอให้พูดความจริง และขออนุญาตแถลงข่าว เบื้องต้นคุณแม่บอกว่าได้ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คที่สหรัฐเมริกา 2 อาทิตย์แล้ว โดยมีค่าส่งประมาณ 2,000 กว่าบาท แต่ตนไม่ทราบว่าส่งไปด้วยช่องทางใด และไม่ทราบว่าบังแจ็คได้ส่งข้อมูลอะไรกลับมาให้คุณแม่บ้าง

นายเดชา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนคิดว่าผู้ที่โพสต์ภาพและคลิปของแตงโมควรหยุดการกระทำ เพราะการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นนั้นมีความผิด ซึ่งตนได้ประสานเพื่อนให้ประสานต่อไปยังเอฟบีไอแล้ว และตนก็ยังคงเป็นทนายความของคุณแม่เหมือนเดิม จากนี้ต้องรอให้คุณแม่หายเครียดก่อน ซึ่งตนก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพจิต เพราะในงานฌาปนกิจ ก็ยังมีบุคคลเข้ามาบอกให้คุณแม่แจ้งความ หรือหาความเชื่อมโยงกับประเด็นการฆาตกรรม

ซึ่งคุณแม่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คกู้ข้อมูล ไม่ได้มีเจตนาให้นำภาพไปปล่อยตามสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ ตนไม่ทราบว่ายูทูบเบอร์คนดังกล่าวได้ข้อมูลจากบังแจ็คได้อย่างไร ส่วนคุณแม่จะเชื่อการแถลงของตำรวจหรือไม่นั้น คุณแม่ไม่เคยบอกอะไรกับตน รวมถึงไม่ได้พูดเรื่องเงิน 300,000 บาท จากการส่งโทรศัพท์

นายเดชา กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยโกรธคุณแม่เลย ส่วนที่แม่บอกว่าโทรศัพท์อยู่ที่ตนนั้น แม่ก็คงต้องเอาตัวรอด รวมถึงรู้ว่าตนก็ไม่โกรธ และตนก็จะไม่ถอนตัวจากการเป็นทนายความ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ภูมิใจที่ได้ทำคดีนี้ แม้จะมีผู้คนด่าว่ามากขึ้นก็ตาม ส่วนในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ที่อัยการจังหวัดนนทบุรีนัดสั่งฟ้องคดี ก็เชื่อว่าจะสามารถสั่งฟ้องคดีได้ตามกำหนด และหลังจากนี้ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *