แซน วิศาพัช รับคำท้า อัจฉริยะ จุดธูปสาบาน คดีแตงโม ยันเอาผิด จิน สามี หนิง ปณิตา ถึงที่สุด

ยังคงเป็นประเด็นให้ตามต่อกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับ แซน วิศาพัช มโนมันรัตน์ หนึ่งในห้าคนที่อยู่บนเรือวันที่นักแสดงสาวแตงโม นิดา พลัดตกสปีดโบ๊ตเสียชีวิต ซึ่งถึงแม่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงข่าวปิดสำนวนคดีไปแล้ว แต่ก็ยังมีประเด็นให้ประชาชนได้ตามกันต่อ

ล่าสุด (4 พฤษภาคม 2565) ที่ สน.ท่าข้าม แซน พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.พิทักษ์ หอมทอง สว.(สอบสวน)สน.ท่าข้าม ให้ปากคำเพิ่มเติมในกรณีที่เคยแจ้งความ “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” สามีของ “หนิง ปณิตา” ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมกับพาพยานบุคคลมาเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่า อินสตราแกรมที่เคยโพสต์ข้อความลักษณะหมิ่นประมาทตนเองนั้นเป็นของ จิน จรินทร์ จริง

โดยแซนเล่าว่า ได้พาพยานบุคคล 1 ปากมาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่า แอคเคาท์ไอจี หรืออินสตราแกรม ที่จิน จรินทร์ ใช้อยู่นั้นเป็นแอคเคาท์จริง รวมถึงให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่บุคคลภายในอ่านข้อความลักษณะดังกล่าวนั้นแล้วรู้สึกอย่างไร เป็นข้อความที่มีเจตนาสื่อถึงความหมายใด เพื่อต้องการให้พนักงานสอบสวนนำความเห็นดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณาหรือนำไปประกอบสำนวน ทั้งนี้หากมีการติดต่อขอโทษก็พร้อมพิจารณา เมื่อทำผิดแล้วกล้ายอมรับผิด ก็พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยพูดคุยกันได้ เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าไม่มีการติดต่อมาก็คงต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีตัวเราเอง

แซนบอกอีกว่า ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ท้าให้ตนออกมาสาบานเรื่องคดีแตงโมนั้น ยืนยันว่าพร้อมทำตามข้อเรียกร้อง ก็ในเมื่อนายอัจฉริยะหมดที่พึ่งทางวิทยาศาสตร์มุ่งสู่ไสยศาสตร์แทน ตนก็ไม่ติดขัด เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย แต่ขอเป็นวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากให้เดินทางไปที่ จ.บุรีรัมย์ คงไม่สะดวก ขอจุดธูปสาบานที่หน้าบ้านแทน แต่มีข้อแม้ว่า นายอัจฉริยะ ก็ต้องออกมาพูดสาบานยืนยันด้วยว่า การที่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นเพราะต้องการช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง ขอยืนยันว่า การที่ตนไม่ไปสาบาน ที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่ใช่ว่าไม่กล้า แต่ระยะทางไกลเกินไป จึงไม่สะดวก และ ในฐานะที่เป็นคนพุทธเหมือนกัน มองว่าวัดที่ไหนก็เหมือนกัน

ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ ออกมาเคลื่อนไหว หรือ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ มองว่าเป็นข้อมูลที่ออกมาพูดไม่มีมูลความจริง และเป็นการจินตนาการไกลเกินขอบเขต สร้างผลกระทบให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาประมวลพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการยื่นฟ้องนายอัจฉริยะหรือจะแบ่งเป็นต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณาให้รอบครอบก่อน

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *